| หน้าแรก | บอร์ด | ติดต่อเรา | แผนที่ | ตัวแทนจำหน่าย | แอร์บรัช | สีแอร์บรัช | ปั้มลม | งานอดิเรก | สมัครงาน | คำถามที่ถามบ่อย |
FAQ: คำถามที่ถามกันบ่อยๆ

Q: แอร์บรัชแบ่งการพ่นสีออกเป็นกี่ประเภท?

A: แอร์บรัชแบ่งการพ่นสีออกเป็น 2 ประเภท

  • การพ่นแบบผสมสีภายนอก คือระบบการผสม ระหว่างลม กับสีจากภายนอกตัวแอร์บรัช ฉีดพ่นออกทางปลายปากกาแอร์บรัช ซึ่งจะให้ความละเอียดในระดับปานกลาง
  • การพ่นแบบผสมสีภายใน คือระบบการพ่นที่สี และลม ผสมกันภายในตัวแอร์บรัช ฉีดพ่นออกทางด้านปลายปากกา ซึ่งจะให้ความละเอียดของเนื้อสี มากกว่าในแอร์บรัชที่พ่นแบบผสมสีภายนอก

Q: แอร์บรัชแบบจังหวะเดียว ต่างกับแบบสองจังหวะอย่างไร?

A: แอร์บรัชแบบ 1 จังหวะ ต่างกับแบบ 2 จังหวะที่ ลักษณะวิธีการใช้งาน แอร์บรัชแบบ 1 จังหวะ ใช้งานโดยการกดลงพ่นเพียงอย่างเดียว โดยที่จะได้ลักษณะของเส้นสีที่คงที่ เมื่อต้องการเปลี่ยนขนาดของเส้นในการพ่น ก็จะใช้วีธีการหมุนปรับที่สกรูด้านหลังของตัวปากกาแอร์บรัช ให้ได้ขนาดที่ต้องการ ส่วนแอร์บรัชแบบ 2 จังหวะ จะมีลักษณะการใช้งาน โดยวิธีการกดลมพ่น แล้วดึงคันโยกของปุ่มกดไปทางด้านหลัง เพื่อปรับขนาดของเส้นสีตามที่ต้องการ ถ้าดึงคันโยกไปทางด้านหลังเพียงเล็กน้อย ก็จะได้ขนาดของเส้นสีที่เล็กบาง ถ้าดึงคันโยกไปทางด้านหลังมาก ก็จะได้เส้นสีขนาดใหญ่ขึ้น ตามแรงกดดึงคันโยก ซึ่งการใช้งานแอร์บรัชทั้ง 2 ประเภท จะสามารถสร้างชิ้นงานที่มีความละเอียดมากพอๆกัน ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ใช้งานในการเลือกใช้


Q: ถ้าต้องการพ่นงานที่ต้องใช้ความละเอียดมากควรใช้สีประเภทไหน ควรใช้แรงลมแบบใด?

A: ถ้าต้องการพ่นชิ้นงาน ที่ต้องใช้ความละเอียดมาก ควรใช้สีที่มีเข้มข้น หรือความหนืดของสี "น้อย" ไม่ควรเป็นสีที่มีลักษณะที่มีความเหนียว หรือข้นจนเกินไป ซึ่งสามารถใช้ได้กับสีทุกประเภท ขึ้นอยู่กับการผสมสีของผู้ใช้งาน และควรปรับแรงลมแบบ "อ่อนเบา" เนื่องจากการพ่นงานแบบละเอียด จะเป็นลักษณะการพ่นแบบใกล้ชิ้นงาน การปรับลมเบา จะช่วยให้ได้สีที่เรียบเนียน ไม่แตกเป็นเม็ดเมื่อพ่นใกล้ชิ้นงาน


Q: ถ้าต้องการพ่นเนื้อที่ขนาดใหญ่ควรใช้แอร์บรัชรุ่นใด?

A: ถ้าต้องการพ่นพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรใช้แอร์บรัชรุ่น 175 ในการพ่น เนื่องจากแอร์บรัชรุ่นนี้ สามารถพ่นสีออกมาในวงกว้างมากกว่ารุ่นอื่น และใช้การบรรจุสีแบบถ้วยด้านล่าง จึงใส่สีได้มาก เหมาะกับการพ่นเนื้อที่ขนาดใหญ่ หรือถ้าต้องพ่นชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ และใช้สีปริมาณมากขึ้น ก็ควรใช้กาพ่นสีรุ่น 400 ในการพ่นซึ่งจะมีลักษณะการพ่น เหมือนกาพ่นสี แต่จะให้ความละเอียดของเนื้อสีมากกว่ากาพ่นสีทั่วไป


Q: การใช้แก๊สสำหรับพ่น

A: การใช้แก๊สสำหรับการพ่นแอร์บรัชนั้น ควรพ่นในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรใช้งานใกล้เปลวไฟ เพราะอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้งานได้ และควรปิดวาล์วที่กระป๋องให้สนิททุกครั้งหลังการใช้งาน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของแก๊สภายในกระป๋อง


Q: ข้อแตกต่างของปั้มลมรุ่นต่างๆ

A:
ปั้มลมรุ่น 101: เป็นปั้มลมที่มีลักษณะถังเก็บลมขนาด 1 ลิตร ไม่มี สวิทซ์เปิดปิดอัตโนมัติเมื่อลมเต็ม ใช้การระบายลมออกทางวาล์วนิรภัย ในการใช้งานจะมีลักษณะ มีเสียงลมระบายเป่าออกตลอดเวลาขณะใช้งาน สามารถต่อแอร์บรัชได้ 1 หัวพ่น
ปั้มลมรุ่น 102: เป็นปั้มลมมีขนาดถังเก็บลมขนาด 2 ลิตร มีสวิทซ์ เปิดปิดอัตโนมัติเมื่อลมเต็มถัง และ compressor จะทำงานขึ้นมาใหม่เมื่อใช้ลมไปถึงระดับที่ตั้งไว้ สามารถต่อใช้งานได้ แอร์บรัช 2หัวพ่น
ปั้มลมรุ่น 103: เป็นปั้มลมที่มีขนาดถังเก็บลมขนาด 5 ลิตร มีสวิทซ์เปิดปิดอัตโนมัติ สามารถต่อแอร์บรัชได้ 5 หัว ปั้มลมรุ่น 380 เป็นปั้มลมรุ่นที่มีลักษณะของถังเก็บลมขนาดใหญ่กว่ารุ่นอื่น มีขนาด ของ compressor เท่ากับรุ่น 102 โดยถังลมจะอยู่ด้านล่างของตัวปั้ม สามารถต่อใช้งานแอร์บรัชได้ 2 หัวพ่น


Q: ปัญหาที่พบบ่อยๆ ในการใช้งานแอร์บรัช

A: ปัญหาที่พบบ่อยๆในการใช้งานแอร์บรัชคือ เกิดการสะดุดของสีในการพ่น อันเนื่องจากเกิดการยืดตัวของ Teflon เมื่อใช้งานไปนานๆ หรือมีสีแห้งติดในตัวปากกาแอร์บรัช เนื่องจากการทำความสะอาดที่ไม่ดีของผู้ใช้งาน เป็นผลทำให้การพ่นชิ้นงานควบคุมได้ยาก และอาจเกิดความเสียหายกับชิ้นงานได้ นอกจากปัญหาจากการใช้งานแล้ว ยังมีปัญหาที่พบมากคือ การชำรุดเสียหายของตัวแอร์บรัช อันเนื่องจาดขาดการระมัดระวังของผู้ใช้งาน เกิดการตกหล่น กระแทกเกิดความเสียหาย ทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้


Q: วิธีบำรุงรักษาแอร์บรัช และปั้มลม

A:

  • วิธีบำรุงรักษาแอร์บรัช หลังใช้งานแอร์บรัชทุกครั้ง เมื่อเลิกใช้งานแล้ว ควรล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ไม่ควรทิ้งไว้โดยไม่ล้างทำความสะอาด เพราะจะทำให้สีแห้งติดอยู่ภายใน จนอาจเกิดปัญหาในการใช้งานครั้งต่อไป และควรระวังในการใช้สีที่มีส่วนผสมของทินเนอร์ในการผสม การทำความสะอาดก็ควรใช้ทินเนอร์ในการฉีดล้าง ไม่ควรแช่อุปกรณ์แอร์บรัชในทินเนอร์ เพราะจะทำให้อุปกรณ์บางส่วนภายในแอร์บรัชเสียหายได้
  • วิธีบำรุงรักษาปั้มลม ควรสังเกตตาแก้วแสดงระดับน้ำมันที่ตัวปั้มเสมอ ควรให้ระดับน้ำมันภายใน compressor อยู่ในระดับที่เหมาะสม คืออยู่ประมาณครึ่งแก้วขึ้นไป ไม่ควรให้น้ำมัน อยู่ในระดับที่น้อยเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความร้อนเมื่อใช้งานไปนานๆ จนเกิดความเสียหายกับตัวเครื่องขึ้นได้ และควรพักเครื่อง เมื่อใช้งานไปนานๆ และควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เมื่ออายุการใช้งานประมาณ 600 ชม. หรือ ประมาณ 3 เดือน อาจสังเกตสีของน้ำมัน compressor ถ้าสีเริ่มเข้มมาก ก็ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน เพื่อยืดอายุการใช้งานของปั้มลม


| หน้าแรก | บอร์ด | ติดต่อเรา | แผนที่ | ตัวแทนจำหน่าย | แอร์บรัช | สีแอร์บรัช | ปั้มลม | งานอดิเรก | สมัครงาน | คำถามที่ถามบ่อย |

 

Email : webmaster@trueinter.co.th

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช 2548
บริษัท ทรู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
182/3-4 ถนน อ่อนนุช ประเวศ ประเวศ กรุงเทพฯ 10250
โทร. 0-2320-1224 ถึง 5 Fax. 0-2321-8740

Copyright © 2006 all rights reserved.
True International Co., Ltd.
182/3-4 On-nuch Rd., Prawet, Prawet, Bangkok 10250 THAILAND.